หลังจากที่เราได้สร้างชิ้นงานขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องการเดินตัดเส้น อาจจะเดินด้วยเส้น รัน(Run) หรือ อินพุตซี(Input C) และเพื่อความรวดเร็วโปรแกรม Wilcom ได้มีคำสั่ง Insert Offset Object มาให้ใช้งาน โดยในเวอร์ชั่น Wilcom 2006 นี้ ทาง Wilcom ได้เพิ่มไอคอนขึ้นมาให้ใช้งานในแถบเครื่องมือเลย ซึ่งไม่เหมือนเวอร์ชั่นรุ่นก่อนที่เรียกคำสั่งนี้จากทางเมนูบาร์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
1.ตัวอย่างชิ้นงานที่จะใช้ในการล้อมกรอบชิ้นงานอัตโนมัติ จะมีทั้งแบบชิ้นงานธรรมดา และ ชิ้นงานที่เจาะรูเอาไว้

2.จากนั้นให้ทำการเลือกชิ้นงานที่เราต้องการให้โปรแกรมล้อมกรอบอัตโนมัติ ให้แอ็คทีฟ เครื่องมือ Insert Offset Object ก็จะพร้อมใช้งานในทันที

4.เมื่อเราคลิกที่ไอคอน Insert Offset Object แล้วโปรแกรมก็จะขึ้นหน้าต่าง Offset Object ซึ่งมีการตั้งค่ามากมายที่เพิ่มขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อน ๆ มากมาย

5.สำหรับการตั้งค่าในส่วนแรกคือ Fixed Offset จะเป็นการตั้งค่าการล้อมกรอบแบบตายตัว ถ้าเป็น 0 จะติดกับขอบเดิมของชิ้นงาน ถ้าค่ามากกว่า 0 ก็จะร่นออกไปนอกชิ้นงานตามระยะที่ตั้งไว้ แต่ถ้าค่าน้อยกว่า 0 หรือ ติดลบก็จะร่นเข้ามาในขอบของชิ้นงาน

6.ถัดไปจะเป็นการตั้งค่า Offset Cout จะเป็นการตั้งค่าจำนวนรอบของเส้นกรอบ โดยเส้นกรอบถัดไปจะมีระยะเท่ากันทุกกรอบตามการตั้งค่า Fixed Offset ในข้อ 5.

7.ในส่วนต่อไปจะเป็นการเลือกรูปแบบมุมของกรอบ หรือ Corner จะมี 2 แบบคือ ด้านบนเป็น rounded หรือมุมโค้ง ส่วนด้านล่างคือ squared หรือ มุมเหลี่ยม

8.ถ้าเป็นการเลือกแบบ squared จะมีการตั้งค่าเพิ่มเติมในการตัดมุมที่แหลมเกินไป แต่เนื่องจากผู้เขียนลองสารพัด ก็ไม่เห็นมันตัดมุมกรอบที่มันแหลมเสียที จึงขอผ่านตัวนี้ไปนะครับ

9.ต่อไปเป็นการเลือการล้อมกรอบแบบกำหนดความห่างเองคือ Use Offset List เมื่อเลือกใช้งานตัวนี้แล้วให้กดที่ปุ่ม Offset List ที่ด้านหลัง ก็จะเป็นการตั้งค่าระยะเส้นกรอบแต่ละเส้นว่าให้ห่างจากกรอบของชิ้นงานแต่ละตัวห่างกันเท่าไหร่ตามการกำหนดของเราได้ สามารถกำหนดระยะความห่างได้ 8 กรอบตามต้องการ

10.ในส่วนต่อไปจะเป็นการเลือกรูปแบบเส้นกรอบ คือ Object Type ซึ่งมีรูปแบบให้เลือก 9 อย่างคือ Run, Triple Run, Motif Run, Input C ,Complex Fill, Fusion Fill Backstitch, Stemstitch, และ vector

11.ในส่วนของการตั้งค่าต่อไปคือ approximation หรือ ความแม่นยำ ในส่วนของลายที่มีรูปร่างซับซ้อน อาจจะทำให้การล้อมกรอบไม่สวยงามเกิดขึ้นได้ สำหรับค่านี้ค่ายิ่งน้อยก็จะทำให้ความสมบูรณ์ในการล้อมกรอบดีขึ้นเท่านั้น

12.ในส่วนต่อไปคือการเลือกเส้นกรอบแบบเกลียวสาหร่าย หรือ Spiral ในกรณีที่มีกรอบหลาย ๆ ชั้น เมื่อกาเครื่องหมายที่ Use Spiral จะทำให้การเดินเส้นกรอบกลายเป็นแบบเกลียวขึ้นมาทันที

13.และท้ายสุด จะเป็นการลบชิ้นงานดั้งเดิมทิ้งเมื่อสร้างกรอบ เมื่อเรากาเครื่องหมายถูกที่ช่อง replace original ก็จะทำให้ชิ้นงานเดิมถูกลบทิ้งในทันที

14.สำหรับชิ้นงานที่ถูกเจาะรู ระบบก็จะเดินกรอบให้ทั้งด้านนอกและด้านในชิ้นงานให้อัตโนมัติ

15.และสำหรับตัวอักษร ก็จะเป็นการเดินกรอบให้เหมือนกัน ข้อสังเกตุคือ ตัวอักษรระบบจะเดินกรอบให้ทุกส่วนแม้แต่รอยต่อ ถ้าต้องการความสวยงามจะต้องใช้เครื่องมือขาประจำอย่าง Reshape Object มาช่วยลบหรือขยับส่วนที่เกินออกให้สวยงามภายหลัง

ที่มา. thaiemb.com
1.ตัวอย่างชิ้นงานที่จะใช้ในการล้อมกรอบชิ้นงานอัตโนมัติ จะมีทั้งแบบชิ้นงานธรรมดา และ ชิ้นงานที่เจาะรูเอาไว้
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 745x587 พิกเซล. |

2.จากนั้นให้ทำการเลือกชิ้นงานที่เราต้องการให้โปรแกรมล้อมกรอบอัตโนมัติ ให้แอ็คทีฟ เครื่องมือ Insert Offset Object ก็จะพร้อมใช้งานในทันที
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 905x776 พิกเซล. |

4.เมื่อเราคลิกที่ไอคอน Insert Offset Object แล้วโปรแกรมก็จะขึ้นหน้าต่าง Offset Object ซึ่งมีการตั้งค่ามากมายที่เพิ่มขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อน ๆ มากมาย

5.สำหรับการตั้งค่าในส่วนแรกคือ Fixed Offset จะเป็นการตั้งค่าการล้อมกรอบแบบตายตัว ถ้าเป็น 0 จะติดกับขอบเดิมของชิ้นงาน ถ้าค่ามากกว่า 0 ก็จะร่นออกไปนอกชิ้นงานตามระยะที่ตั้งไว้ แต่ถ้าค่าน้อยกว่า 0 หรือ ติดลบก็จะร่นเข้ามาในขอบของชิ้นงาน
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 950x555 พิกเซล. |

6.ถัดไปจะเป็นการตั้งค่า Offset Cout จะเป็นการตั้งค่าจำนวนรอบของเส้นกรอบ โดยเส้นกรอบถัดไปจะมีระยะเท่ากันทุกกรอบตามการตั้งค่า Fixed Offset ในข้อ 5.
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 959x545 พิกเซล. |

7.ในส่วนต่อไปจะเป็นการเลือกรูปแบบมุมของกรอบ หรือ Corner จะมี 2 แบบคือ ด้านบนเป็น rounded หรือมุมโค้ง ส่วนด้านล่างคือ squared หรือ มุมเหลี่ยม
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 925x573 พิกเซล. |

8.ถ้าเป็นการเลือกแบบ squared จะมีการตั้งค่าเพิ่มเติมในการตัดมุมที่แหลมเกินไป แต่เนื่องจากผู้เขียนลองสารพัด ก็ไม่เห็นมันตัดมุมกรอบที่มันแหลมเสียที จึงขอผ่านตัวนี้ไปนะครับ
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 948x562 พิกเซล. |

9.ต่อไปเป็นการเลือการล้อมกรอบแบบกำหนดความห่างเองคือ Use Offset List เมื่อเลือกใช้งานตัวนี้แล้วให้กดที่ปุ่ม Offset List ที่ด้านหลัง ก็จะเป็นการตั้งค่าระยะเส้นกรอบแต่ละเส้นว่าให้ห่างจากกรอบของชิ้นงานแต่ละตัวห่างกันเท่าไหร่ตามการกำหนดของเราได้ สามารถกำหนดระยะความห่างได้ 8 กรอบตามต้องการ
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 961x709 พิกเซล. |

10.ในส่วนต่อไปจะเป็นการเลือกรูปแบบเส้นกรอบ คือ Object Type ซึ่งมีรูปแบบให้เลือก 9 อย่างคือ Run, Triple Run, Motif Run, Input C ,Complex Fill, Fusion Fill Backstitch, Stemstitch, และ vector
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 1005x632 พิกเซล. |

11.ในส่วนของการตั้งค่าต่อไปคือ approximation หรือ ความแม่นยำ ในส่วนของลายที่มีรูปร่างซับซ้อน อาจจะทำให้การล้อมกรอบไม่สวยงามเกิดขึ้นได้ สำหรับค่านี้ค่ายิ่งน้อยก็จะทำให้ความสมบูรณ์ในการล้อมกรอบดีขึ้นเท่านั้น
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 1041x533 พิกเซล. |

12.ในส่วนต่อไปคือการเลือกเส้นกรอบแบบเกลียวสาหร่าย หรือ Spiral ในกรณีที่มีกรอบหลาย ๆ ชั้น เมื่อกาเครื่องหมายที่ Use Spiral จะทำให้การเดินเส้นกรอบกลายเป็นแบบเกลียวขึ้นมาทันที
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 1090x712 พิกเซล. |

13.และท้ายสุด จะเป็นการลบชิ้นงานดั้งเดิมทิ้งเมื่อสร้างกรอบ เมื่อเรากาเครื่องหมายถูกที่ช่อง replace original ก็จะทำให้ชิ้นงานเดิมถูกลบทิ้งในทันที
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 1066x709 พิกเซล. |

14.สำหรับชิ้นงานที่ถูกเจาะรู ระบบก็จะเดินกรอบให้ทั้งด้านนอกและด้านในชิ้นงานให้อัตโนมัติ

15.และสำหรับตัวอักษร ก็จะเป็นการเดินกรอบให้เหมือนกัน ข้อสังเกตุคือ ตัวอักษรระบบจะเดินกรอบให้ทุกส่วนแม้แต่รอยต่อ ถ้าต้องการความสวยงามจะต้องใช้เครื่องมือขาประจำอย่าง Reshape Object มาช่วยลบหรือขยับส่วนที่เกินออกให้สวยงามภายหลัง
![]() | ภาพนี้ได้ถูกปรับขนาด คลิกที่แถบนี้เพื่อดูภาพเต็ม ภาพต้นฉบับมีขนาด 983x408 พิกเซล. |

ที่มา. thaiemb.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น